Categories
News

การตลาดออนไลน์ ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจยุคนี้ ต้องมีอะไรบ้าง

การตลาดออนไลน์ ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจยุคนี้ ต้องมีอะไรบ้าง สิ่งสำคัญของการทำการตลาดออนไลน์ในยุคนี้ คือ Digital Marketing หรือเรียกว่าการตลาดในยุคดิจิทัล ที่เน้นการตลาดบนโลกอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาใช้งานอินเตอร์เน็ตมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือแอปพลิเคชันทั้งหลาย อย่างไรก็ตามใช่ว่าทุกธุรกิจออนไลน์จะสามารถประสบความสำเร็จได้ทั้งหมด หากไม่มีความรู้ ความเข้าใจ ไม่สามารถวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อาจส่งผลให้ธุรกิจนั้นไม่เจริญเติบโตหรือไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ในที่สุด

บางธุรกิจต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากมายมหาศาลเพื่อโปรโมทสินค้าหรือโฆษณา แต่กลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าในกลุ่มเป้าหมาย ไม่มีกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสม ก็ต้องสูงเสียเงินลงทุนโดยเปล่าประโยชน์ หรือไม่ก็สูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดไปในที่สุด

ดังนั้น วันนี้เราจะขอพูดถึงองค์ประกอบใดบ้าง ที่จะทำให้การตลาดออนไลน์สามารถประสบความสำเร็จได้ในยุคนี้ ยุคที่มีการแข่งขันสูง เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจออนไลน์ในทุกแขนง หากต้องการประสบความสำเร็จจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีองค์ประกอบ ดังต่อไปนี้

สิ่งสำคัญ การตลาดออนไลน์ จำเป็นต้องมี
1.มีเป้าหมายที่ชัดเจน

ชีวิต ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามต้องมีเป้าหมายที่จัดเจน เหมือดังสุภาษิตจีนที่กล่าวเอาไว้ว่า “เมื่อไม่มีเป้าหมาย พลังที่ทุ่มเทไปจะสูญเปล่า” เช่นเดียวกัน ในการทำการตลาดออนไลน์ สิ่งแรกที่ต้องมีคือเป้าหมายที่ชัดเจน ธุรกิจต้องรู้ก่อนว่าเราขายสินค้าอะไร กลุ่มลูกค้าคือใคร ราคาที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไหร่ และควรใช้ช่องทางออนไลน์รูปแบบใดให้เหมาะสม เพื่อเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้ได้มากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการขายปลีกอาจจะต้องวางขายใน E-Marketplace เว็บไซต์ที่เป็นสื่อกลางอย่างเช่น Lazada หรือ Shopee รวมไปถึงการขายสินค้าในโลกโซเชียลมีเดียต่าง ๆ แต่หากคุณมีสินค้าจำนวนมาก หรือเป็นเจ้าของโรงงานผลิตโดยตรง ซึ่งต้องการขายในราคาส่ง ควรมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง อย่างนี้เป็นต้น หากกล่าวโดยสรุปเป้าหมายที่ชัดเจนคือ เราต้องรู้ว่าเราจะขายอะไร ขายให้ใคร ขายที่ไหน และควรขายอย่างไรนั่นเอง

2.ตามให้ทันทุกเหตุการณ์

โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น รูปลักษณ์ ดีไซน์ภายนอกและ แพคเกจ ต้องทันสมัยหรือต้องตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้ สิ่งสำคัญคือการติดตามข่าวสาร ตามให้ทันเทรนโลก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมากมาย หากเราไม่ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ก็อาจทำให้เกิดความล้าหลัง ตามไม่ทันคู่แข่ง อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเราได้ นอกจากการตามให้ทันทุกเหตุการณ์ ในปัจจุบันแล้ว ก็อย่าลืมที่จะวัดผลการทำงานเป็นระยะในทุก ๆ 1-3 เดือน จะทำให้เข้าใจและเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในแต่ละสถานการณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อหาวิธีการป้องกันและแก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้น หรือสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทันท่วงที

3.ให้ความสำคัญกับคอนเทนต์

Content Marketing คือ กลยุทธ์อย่างหนึ่งในการทำการตลาดออนไลน์ เปรียบเสมือนเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสาร ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ ถ้าต้องการให้ผู้บริโภคเข้าใจในสิ่งที่ธุรกิจจะสื่อสาร คอนเทนต์ต้องมีคุณภาพ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถแปลความหมายของแบรนด์อย่างได้แท้จริง แต่พฤติกรรมของผู้ซื้อส่วนใหญ่ไม่ชอบการคอนเทนต์ที่มุ่งเน้นการขายเพียงอย่างเดียว โดยธุรกิจจะต้องสร้างคอนเทนต์เน้นเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจแต่แอบแฝงการ Tie-in สินค้าเข้าไปให้ดูกลมกลืน โดยเฉพาะการทำ SEO (Search Engine Optimization) ที่เน้น Keyword คำค้นหา เพื่อให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกของ Google จะมีโอกาสทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้มากกว่า ทำไมคอนเทนต์จึงมีความสำคัญ อธิบายอย่างตรงไปตรงมาคือ การโปรโมทสินค้าผ่านการโฆษณามักจะได้ผลเพียงแค่ในระยะสั้นเท่านั้น และอาจต้องใช้เงินลงทุนสูงแตกต่างจากคอนเทนต์ที่สร้างผลลัพธ์ในระยะยาวได้มากกว่า แถมยังมีต้นทุนที่ถูกกว่าอีกด้วย

4.สร้างระบบตัวแทนจำหน่าย

ในยุคนี้ธุรกิจออนไลน์หลายแห่งเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับ Affiliate marketing ซึ่งเป็นการทำการตลาดออนไลน์เพื่อขายสินค้าหรือบริการโดยผ่านตัวแทนขาย หากจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ๆ คือ เป็นเหมือนระบบตัวแทนจำหน่าย หรือคล้ายกับนายหน้าในการซื้อขายที่ดิน โดยที่ธุรกิจออนไลน์ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูงในการโปรโมทสินค้าหรือทำโฆษณา เพราะค่าตอบแทนของนายหน้าส่วนใหญ่ที่นิยมมักจะเป็นค่าคอมมิชชั่นจากการขาย หรือตามที่ตกลงกันไว้ระหว่างร้านค้ากับพันธมิตรเป็นระบบที่เรียกว่า Win-Win ทั้งสองฝ่าย หรือจะเรียกว่าการจับเสือมือเปล่าก็ยังได้

5.วิเคราะห์ความต้องการในตลาด

สิ่งสำคัญในการทำการตลาด ไม่ว่าจะออฟไลน์หรือออนไลน์ คือการวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค คำถามต่อมาคือ หากธุรกิจนั้นมีลูกค้าจำนวนมาก ทำอย่างไรจึงจะสามารถวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ โดยใช้เวลาอันรวดเร็วในการเจาะเข้าถึงความต้องการที่แท้จริง สิ่งที่ทำให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่สามารถวิเคราะห์ผู้บริโภค และรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ คือ การนำ AI (Artificial Intelligence) เทคโนโลยีปัญหาประดิษฐ์มาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่หรือเรียกว่า Big data เนื่องจาก AI คือเทคโนโลยีอันชาญฉลาดมีความสามารถในการวิเคราะห์ วางแผน ประมวลผลข้อมูลออกมาในรูปแบบที่นักการตลาดต้องการ เพื่อนำข้อมูลที่ได้เหล่านั้นมากำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดต่อไป

การวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค มีเครื่องมือในการวิเคราะห์รูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ คือ Mandala analysis เป็นเครื่องมือในการรับฟังเสียงของผู้บริโภค (Social listening tools) หรือเรียกว่าตัวดักจับ Voice เพื่อให้ธุรกิจสามารถนำ Keyword ของผู้บริโภคไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น นำมาสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ สร้างกลยุทธ์หรือคิดไอเดียทางการตลาด ตลอดจนนำมาพัฒนาหรือปรับปรุง เพื่อให้เข้าใจความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น (Customer Journey)